การเสริมสะโพก

Buttock Augmentation

*ระยะเวลาการรักษาและฟื้นฟูขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน

สรีระความแตกต่างของบั้นท้ายระหว่างเพศชาย และเพศหญิงที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนจากรูปลักษณ์ภายนอกได้แก่ บั้นท้ายส่วนบนโดยในเพศหญิงจะมีเนื้อที่บั้นท้ายส่วนบนมากกว่าผู้ชาย ทำให้รูปทรงบั้นท้ายโดยรวมดูแล้วกลมกลืนกัน ซึ่งเมื่ออายุที่มากขึ้น หรือหลังการให้นมบุตรแล้ว ผู้หญิงจะมีการสูญเสียไขมัน และ คอลลาเจน ทำให้สะโพกดูแบบ หรือย้อยลง ไม่กลมโค้ง เมหือนเดิม ปัจจุบันนี้ได้มีเทคนิคการผ่าตัดเสริมสะโพกแบบใช้ถุงซิลิโคน หรือ การฉีดสเต็มเซลล์ไขมันของตัวเอง (CAL) เข้าไป เพื่อให้สาวๆ ได้รูปร่างที่ดูดีกลับคืนมาได้อย่างปลอดภัย

ผู้ที่เหมาะสมที่จะเข้ารับการรักษา

ไม่พอใจในขนาดสะโพกของตนเอง หรือผิดรูป
มีสุขภาพดีที่ไม่ได้มีเงื่อนไขทางการแพทย์ที่สามารถทำให้เสียการรักษาหรือเพิ่มความเสี่ยงของการผ่าตัด
ไม่สูบบุหรี่
สามารถฝึกนอนคว่ำหน้าได้ อย่างน้อย 2 อาทิตย์ให้ชิน สำหรับระยะฟื้นตัวหลังการผ่าตัด

การเสริมสะโพกมี 3 แบบ

ที่นิรันดาคลินิก เรามีการเสริมสะโพกด้วยเทคนิคหลักๆ ดังนี้

ถุงเสริมสะโพกเทียม เป็นถุงที่ทำด้วยซิลิโคน ภายในบรรจุ ซิลิโคนเจล เช่นเดียวกับถุงซิลิโคนที่ทำการเสริมหน้าอก สำหรับเสริมสะโพกภายในจะบรรจุด้วยซิลิโคนเจล จะใส่ในกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่มีการเคลื่อนไหว ทำทนต่อแรงกดบริเวณสะโพกได้ดี
ซิลิโคนชนิดแผ่น เป็นซิลิโคนแท่งที่มีการทำขึ้นมาเพื่อเสริมสะโพกโดยมีลักษณะเช่นเดียวกับซิ ลิโคนแท่ง สำหรับการเสริมจมูก แต่มีการผลิตมาเป็นแผ่นใหญ่ และมีรูปร่างโค้งงอตามรูปแบบของสะโพก
การฉีดสเต็มเซลล์ไขมันของตัวเอง (CAL) เป็นการเติมสะโพกด้วยไขมันตนเอง โดยแพทย์จะทำการดูดไขมันจากส่วนที่ไม่ต้องการ เช่น หน้าท้อง ต้นขา แล้วนำไปคดเลืกเซลล์ไขมันที่แข็งแรง แล้วกลับเข้าไปฉีดบริเวณสะโพกทันที โดยมากทำภายใต้การดมยาสลบเช่นกัน หลังผ่าตัด ปฏิบัติตัวเช่นเดียวกับเสริมด้วยซิลิโคน แต่ต่างกันที่ห้ามนวดบริเวณที่ฉีดไขมันเด็ดขาด เพราะทำให้ไขมันสลายได้ ข้อดีของการฉีดไขมันที่เห็นได้ชัดคือ นอกจากจะเป็นเนื้อเยื่อของตนเอง ตัดปัญหาเรื่องการแพ้สารฉีดและผลแทรกซ้อนของซิลิโคน แล้วยังเป็นการลดสัดส่วนบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการโดยเฉพาะหากมีไขมันบริเวณเอว หรือต้นขามาก การดูดไขมันจากบริเวณดังกล่าวจะยิ่งช่วยทำให้สะโพกสวยเด่นขึ้นมาก เนื่องจากสัดส่วนระหว่างเอวและสะโพกจะดีขึ้นตามที่กล่าวไว้ตอนต้น

แนวทางการรักษาของนิรันดา

พักฟื้นโรงพยาบาล 1 วันสวมผ้าพันแผล หากมีการเย็บแผลปิดสามารถดำเนินการตัดไหมหลังจากการผ่าตัด 7 วัน ทีมแพทย์จะแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการดูแลแผลก่อนที่จะกลับบ้าน
คุณจะรู้สึกปวดบริเวณที่ใส่ถุงซิลิโคนในช่วงแรก แต่อาการเหล่านี้จะค่อยๆทุเลาลงในวันที่ 5 ถึง 7 หลังการผ่าตัด ในช่วงนี้คุณจะเริ่มเดินและนั่งได้สะดวกยิ่งขึ้น กิจกรรมต่างๆ เช่น การวิ่ง หรือการขี้จักรยาน สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่อาทิตย์ที่ 4 หลังการผ่าตัด โดยคุณจะเริ่มรู้สึกกลมกลืนกับซิลิโคนที่ใส่เข้าไปใหม่ตั้งแต่อาทิตย์ที่ 6 ถึง 8 หลังการผ่าตัดเป็นต้นไป (แต่สำหรับการเสริมด้วยฉีดสเต๋มเซลล์ไขมันนั้น จะไม่มีคว่ามเจ็บมากนัก แต่อาจจะรูสึกเมื่อยๆ บริเวณก้นได้เพียงเล็กน้อย)
ไม่สูบบุหรี่และดื่มอย่างน้อย 5 วันหลังการผ่าตัด
ผู้ป่วยควรงดการออกกำลังกายเป็นเวลา 3 เดือนหลังการผ่าตัดแต่สามารถ เดินและพักผ่อนได้ตามปกติ
อาการช้ำและบวมจะลดลงภายใน 2 สัปดาห์ และจะจางหายไปหมดใน 4-6 สัปดาห์