การศัลยกรรมผ่าตัดให้เป็นใบหน้าสตรี

Facial Feminization Surgery

*ระยะเวลาการรักษาและฟื้นฟูขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน

การศัลยกรรมผ่าตัดให้เป็นใบหน้าสตรี เป็นกลุ่มของวิธีการผ่าตัดที่ออกแบบเปลี่ยนหน้าผู้ชายให้เป็นใบหน้า ผู้หญิง การศัลยกรรมให้เป็นใบหน้าสตรีนี้ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ FFS (Face Faminization Surgery) ใบหน้าผู้ชายและผู้หญิงมีโครงสร้างที่ต่างกัน การผ่าตัดศัลยกรรมเหล่านี้มักจะอยู่ในกลุ่มของ ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนเพศจากชายเป็นเพศหญิง การศัลยกรรมให้เป็นใบหน้าสตรีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะใบหน้าจะแสดงภาพแรกให้คนทั่วไปเห็น และสร้างความประทับใจเกี่ยวกับเพศของบุคคล ในขณะที่สามารถซ่อนส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยส่วนใหญ่การที่จะสร้างลักษณะให้เป็นผู้หญิงโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดใบหน้า นั้นเป็นไปได้ยาก การผ่าตัดนี้จะต้องเข้ามาปรึกษา และร่วมออกแบบกับคุณหมอก่อนทำศัลยกรรม เพื่อให้ได้รูปหน้าที่เหมาะสมที่สุดกับสรีระของคนไข้

การเหลาหน้า

การเหลาหน้าFacial Feminization Surgery (FFS) คือการศัลยกรรมตกแต่งที่เหลาโครงกระดูก บนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก โหนกคิ้ว กราม เพื่อให้โครงหน้าดูเรียว และ เรียบ แลดูให้สวยแลดูเป็นสตรีเพศ การเหลาหน้านั้นจะต้องขึ้นกับโครงสร้าง และ ความเป็นไปได้ที่ศัลยแพทย์ตกแต่ง ต้องคุยกับคนไข้เพื่อผลลัพธ์ที่ออก มาเป็นธรรมชาติ และ สวยงาม ตามต้องการ

ศัลกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเหลาหน้า

- STEMCELL FAT FACIAL TRASFER (CAL) คือการฉีดสเต็มเซลล์ไขมันที่มีความเข้มข้นของไขมันที่สูงเพื่อให้มีใบหน้าที่ดูมีรูปทรง และสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ

 - FOREHEAD CONTOURING การเหลาหน้าผาก : และอาจจะรวมถึงการดึงไรผม (Hairline Advancement, Browlift, and Contouring the Underlying Bone) ลงมาเพื่อให้ดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น

- JAW CONTOURING การเหลาคาง : เพื่อลดขนาดของใบหน้าที่ดูใหญ่และบานกว้างให้ดูเล็กลง

 - LIPS ตัดริมฝีบาง : ทำให้ดูริมฝีปากบางลง และอาจจะฉีด สารเติมเพิ่มสำหรับคนที่ต้องการให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม

- THYROID REDUCTION ลดขนาดลูกกระเดือก : ทำให้ช่วงคอดูเรียบเนียนมากขึ้น

 - RHINOPLASTY ลด หรือเสริมจมูก : ให้ใบหน้าดูหวานคมมากขึ้น 

- HAIR RESTORATION การปลูกผม : เพื่อปลูกให้ผมดูหนาขึ้น

 - CHIN AND CHEEK IMPLANTS เสริมคาง และโหนกแก้ม : เหมาะสำหรับคนที่มีใบหน้าสั้นและกลม จะทำให้แลดูเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าสวยหวานมากขึ้น

แนวทางการรักษาของนิรันดา

การผ่าตัดจะใช้เวลา 1-6 ชั่วโมง ด้วยการให้ยานอนหลับทางเส้นเลือด (IV Sedate) หรือการดมยา (General Anesthesia) ด้วยวิสัญญีแพทย์ และนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล 1-2 คืน และแพทย์จะแจ้งให้ทราบถึงการนัดตัดไหม และดูแลตัวเองก่อนกลับบ้าน

หลังการผ่าตัดต้องมีการใส่สายระบายเลือดและผ้าพันแผลที่ใบหน้าซึ่งจะสามารถ แพทย์จะเป็นผู้เอาออกให้หลังจากผ่าตัด 24-48 ชั่วโมง และต้องนอนยกศีรษะให้สูงขึ้นเพื่อช่วยในการลดอาการบวม

อาการบวมและรอยช้ำบนใบหน้าเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ และจะค่อยๆ จางหายไปเองภายใน 2 สัปดาห์ อาการตึงและชาที่ใบหน้าและลำคอนั้นจะพบได้บ้าง และโดยปกติแล้วอาการเหล่านั้นจะหายไปภายใน 2-3 สัปดาห์